“โก๊ะตี๋ อารามบอย” ไม่รู้เกิดอะไรขึ้นกับชีวิต ดวงตกแรงมาก! เจออุบัติเหตุไม่เว้นวัน

มีแต่เรื่องให้ต้องรักษาให้ต้องเข้าโรงพยาบาลตั้งแต่ต้นปี สำหรับศิลปินตลกชื่อดัง โก๊ะตี๋-เจริญพร อ่อนละม้าย หรือ โก๊ะตี๋ อารามบอย ที่ล่าสุดเจ้าตัวได้ออกมาเปิดใจกับสื่อมวลชนในงานบวงสรวงละคร กระสือลำซิ่ง ช่อง 8 ถึงเหตุการณ์หลายๆ เหตุการณ์ที่ทำให้อดตั้งคำถามกับตัวเองไม่ได้ว่า เกิดอะไรขึ้นกับชีวิต??

นอกจากนั้นแล้ว โก๊ะตี๋ อารามบอย ก็ยังได้อัปเดตเพิ่มเติมถึงธุรกิจที่ทำร่วมกันกับหวานใจ น้องกวาง ซึ่งก็คือ ธุรกิจแคคตัส ที่ดูเหมือนว่าจะราบรื่นและได้รับการตอบรับที่ดีจากแฟนๆ รวมถึงกลุ่มคนรักต้นไม้เป็นอย่างมาก…

“ไม่รู้ว่าปีนี่มันเกิดอะไรขึ้นกับร่างกายหนู เมื่อวานนี้สดๆ ร้อนๆ เลย ห้อเลือด เลือดคลั่งในนิ้ว ไปตัดกิ่งกระบองเพชร แล้วสปริงคีมมันหลุดหนีบนิ้ว คือปีนี้เป็นอะไรหนักหนาไม่รู้ ไม่รู้ปีชงหรือปีดื่ม แต่ตั้งแต่ปีใหม่มานี้แบบ ตอนแรกแพ้แมงป่อง จากนั้นก็ไปแพ้ไข่มดแดงที่โคราช แต่อันนั้นไม่ได้บอกใคร ต้องไปฉีดยาแก้แพ้ และก็หัวโขกซึ้ง ซึ้งร้อนๆ เลย แสบมาก พอดูก็พอง เลยเอาผ้าเย็นมาโปะไว้แป๊บหนึ่ง หายแล้วก็ยังมีแผลเป็นนิดๆ”

ต้องระวังตัวไหม นี่เพิ่งเดือนที่ 3 ?
“จริง คือรู้สึกว่าปีนี้อะไรก็ไม่รู้ ปีที่แล้วก็ทำแบบนี้ แต่ทำไมปีนี้มันโน่นนี่นั้น ถามว่ามีไปเช็กดวงไหม คือหนูอาจจะซุ่มซ่ามก็ได้ ปีนี้ 42 แล้ว ปีวอก”

ปีวอกชงร้อยเปอร์เซ็นต์ ?
“บรรลัยแล้วกู เพิ่งรู้เลย ต้องไปแก้ชงแล้ว ถึงบอกว่าไม่รู้ปีชงหรือเปล่า เพราะไม่เคยดูดวง ปกติเราไม่ได้ใส่ใจเรื่องดวงเลย เราเป็นคนเชื่อว่าชีวิตเรา เราเป็นคนกำหนดเอง มันจะเกิดอุบัติเหตุ ก็ขอแค่เราอย่าประมาท มันก็ไม่เกิดแล้วถูกไหม แต่อันนี้รู้สึกว่าเราก็ไม่ได้ประมาทนะ ใช้ชีวิตเหมือนทุกปีที่ผ่านมา แต่ปีนี้ตั้งแต่ต้นปีมาเนี่ย เจ็บตัวเยอะ”

เราเชื่อเรื่องดวงชงไหม ?
“เมื่อก่อนก็ไม่เคยเชื่อนะ ไม่เคยดูดวงมานานมากแล้ว เพราะดูแล้วมันไม่สบายใจ บางทีเขามาเตือนเราก็รั้น ก็ไม่ค่อยเชื่อ เพราะเราเชื่อว่าเราคิดดี พูดดี ทำในสิ่งที่ดีๆ มันไม่น่าจะมีอะไร แต่ก็อย่างว่าแหละ ของพวกนี้ไม่เชื่อก็อาจจะต้องฟังไว้บ้าง ถ้าได้ข่าวว่าปีวอกชงร้อยเปอร์เซ็นต์ นี่ต้องหาที่แก้แล้วแหละ ก็จะไปทำบุญให้มากขึ้นเท่านั้นเอง”

โก๊ะตี๋ หน้าผากพุพอง โดนฝาซึ้งร้อนๆ ขณะถ่ายรายการ

นอกจากเรื่องเจ็บตัว มีเรื่องอะไรเข้ามาอีกไหม ?
“คืองานเข้ามาเยอะนะ ละครเข้ามาเยอะ ทุกอย่างเข้ามา แต่มันก็เกิดอุบัติเหตุบ่อยๆ เหมือนงานก็โอเค แต่อุบัติเหตุไม่โอเคไง มันเหมือนสวนทางกัน เพราะตอนนี้ผู้จัดการเขาบอกว่าละครเข้ามา รายการก็เข้ามา อะไรดีๆ มันก็เข้ามาเยอะพอสมควร แต่ว่ามันก็เจ็บตัวตั้งแต่ต้นปีมาแล้ว”

จะไปแก้ปีชงให้เร็วที่สุดเลยไหม ?
“เมื่อก่อนไปวัดหัวลำโพง ไปทำบุญโลงศพบ่อย เมื่อก่อนไปเดือนละสองครั้ง แต่ตั้งแต่มีโควิดมา ก็ไม่กล้าที่จะไปเจอคนเยอะๆ ไม่กล้าออกไปไหนเลย ก็จะระมัดระวังตัวเองให้มากขึ้นครับ ฝากด้วยนะ สวนแคคตัส ใครสนใจก็เข้าไปเยี่ยมชมได้ มีไลฟ์ทุกวัน และเร็วๆ นี้กำลังทำกับหลาน ตอนนี้คนที่ขับรถให้ทุกวันก็คือหลานชายที่เลี้ยงมสตั้งแต่เกิด ตอนนี้เรียนจบแล้ว ถึงเวลาที่ต้องทดแทนบุญคุณเราบ้างแล้ว ก็ให้มาขับรถให้ เขาตัดต่อเป็น ก็ฝากช่องยูทูบด้วยละกัน โก๊ะตี๋อารามบอย จะเป็นกิจวัตรประจำวัน กินน้่น กินนี่ ใช้ชีวิตปกติ จะให้หลานถ่ายและตัดให้”

โก๊ะตี๋ อารามบอย

ธุรกิจแคคตัสไปได้ไกลไหม ?
“มันไปได้เรื่อยของมันอยู่แล้ว เหมือนวงการพระเครื่อง วงการรถเก่า ถึงแม้ว่ามันจะไม่ได้อยู่ในช่วงฮิตแต่มันก็มีของเขาอยู่แล้ว แคคตัสมาอยู่ในประเทศไทยประมาณ 75-80 ปีแล้ว เพราะฉะนั้นวงการก็จะอยู่ของเขาเรื่อยๆ เหมือนไม้ด่างก็ยังขายได้เรื่อยๆ วงการพระเครื่องเขาก็ยังมีคนนับถือมีคนเคารพเหมือนกันครับ”

ถ้าวัดเรื่องรายได้เป็นอย่างไรบ้าง ?
“ก็ดูแลตัวเองได้ เมื่อก่อนหนูลงๆ อย่างเดียว เหมือนตอนเลี้ยงไก่ชน แต่พอเลิกจากไก่ชนมาเลี้ยงแคคตัส มันสามารถขายแคคตัสสร้างโน่นได้ จ่ายเงินเดือนลูกน้องได้ จ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ลงเสาเข็ม เดือนหนึ่งหลักแสนประมาณนั้น ถ้าขยันไลฟ์ ขยันขายนะ ถ้าไม่ได้ขยันก็พอจ่ายค่าลูกน้องเราได้ แต่รายได้จริงๆ หนูก็ไม่ทราบ หนูก็เป็นลูกจ้างเขา งงไหม เจ้าของธุรกิจคือน้องกวางครับ เราเป็นลูกจ้าง เงินทุกบาทเราไม่รู้ว่าได้มาเท่าไหร่ ยังไง เพราะเงินทุกบาทโอนให้เขาหมด”

“เราจะได้เงินเดือน เดือนละสามหมื่น แต่เราทำทุกอย่าง ทุกอย่างให้เขาดูแลจัดการ แต่เขาก็ไม่ได้เอาไปไหนหรอก เขาก็เอาไปจัดการในสวน จ่ายลูกน้อง อย่างช่วงโควิดแรกๆ สวนแคคตัสหนูก็ซื้อเครื่องออกซิเจนบริจาคไปได้ตั้ง 20-30 เครื่อง เขาบอกว่าช่วงนี้เราก็ตั้งใจทำงานดี เพราะเขาดูกล้องวงจรปิดไง ที่สวยมี 21 ตัว เราอยู่มุมไหนเขาเห็นหมด เราคุยกับใครเขาได้ยินหมด เพราะฉะนั้นเหมือนหนูติดคุก (หัวเราะ)”

“อันนี้เรื่องจริงนะ คือหนูจะไม่รู้ คือทุกสิ่งทุกอย่างแคคตัสมันเป็นอนาคตของเราและเขา เพราะฉะนั้นจะให้เขาดูแล จะไม่ไปยุ่ง คือหนูมีความสุขกับการทำไม้ มีความสุขกับการเอาไม้ไปประกวด มีความสุขกับการปลูกต้นไม้แล้วเงินเดือนเรามี เราเงินเดือนสามหมื่นเราแฮปปี้ เราจะทำอะไรก็เรื่องของเราครับ ก็เงินทั้งหมดนี้ก็จะไปจัดงานแต่งงานด้วย เป็นเรื่องราวของเราสองคนครับ จะขยายโรงเรือนอีกไหม ไม่มีที่ให้ขยายแล้วครับ เพราะที่ลงเสาเข็มนี่เราจะสร้างบ้านเราในอนาคตครับ เราวางแผนไว้เผื่ออนาคตแหละครับ ก็ลงไปประมาณ 7 แสนกว่าบาท”