เสียดายแต่ต้องไปต่อ! “มีน พีรวิชญ์” ชวดหลายล้านเพราะโควิด เผยเรื่องรัก “ดรีม” ทำให้โลกสดใส

เป็นนักแสดงหนุ่มที่ต้องจับตามองอีกหนึ่งคน สำหรับ มีน-พีรวิชญ์ อรรถชิต หนุ่มหน้าใสมากความสามารถขวัญใจแฟนๆ หลังจากแจ้งเกิดดังเปรี้ยงในซีรีส์เรื่อง Love Sick The Series ซีซั่น 2 ล่าสุด มีน หันมาลงละครเต็มตัวกับทางต้นสังกัด ช่อง 3 ในละครเรื่อง “เพชฌฆาตจันทร์เจ้า” รับบทเป็นหนุ่มนักฆ่าร่วมกับนักแสดงมืออาชีพมากมาย งานนี้เจ้าตัวตื่นเต้นสุดๆ เลยพลาดไม่ได้ต้องขอพูดคุยกับมีนถึงผลงานใหม่เรื่องนี้

พร้อมกับพูดคุยถึงชีวิตที่ผ่านมาในเรื่องของการปรับตัวในช่วงโควิด-19 มีข่าวว่าเสียโอกาสไปมาก ชวดรายได้ไปหลายล้าน และอัปเดตเรื่องราวหัวใจกับสาว ดรีม-อภิชญา พานิชตระกูล ว่าตอนนี้สถานะเรียก “แฟน” หรือยัง

“สำหรับ “เพชฌฆาตจันทร์เจ้า” ผมรับบทเป็น “ภพ” ครับ เป็นหนึ่งในสามนักฆ่าของนาย เป็นคนที่ต้องเลือกระหว่างงาน ความรัก และความถูกต้องครับ ในเรื่องผมว่าตัวละครทุกตัวจะมีความเทาๆ มีทั้งแง่มุมที่ดีและไม่ดีแต่ก็มีเหตุผลว่าทำไมต้องทำแบบนั้น ต้องรอดูให้จบว่าสุดท้ายแล้วแต่ละคนจะเลือกตัดสินใจยังไง”

“บทของภพจะหนักไปทางแอคชั่น ดราม่า เป็นอีกเส้นนึงที่ฉีกไปจากเส้นเรื่องที่ค่อนข้างคอมมาดี้ ตัวภพจะเป็นคนที่ยิ้มน้อย หัวเราะแทบจะไม่มีเลย หนักๆ ไปทางแอคชั่นและดราม่า”

“สำหรับมีนมองว่าเรื่องนี้เป็นละครที่มีความหลากหลาย มีสีสันที่เยอะ นักแสดงทุกคนเอาอยู่กันทั้งนั้น มีความตลก เข้มข้น ดราม่า และคาดไม่ถึง เป็นละครที่เอาความสนุกนำครบทุกรสแน่นอน และในเรื่องจะสื่อให้เห็นเรื่องของการตัดสินใจของแต่ละตัวละคร ในสถานการณ์ที่ตัดสินใจยากสุดท้ายแล้วถ้าต้องตัดสินใจจะตัดสินใจยังไง ผมว่าตรงนี้น่าจะทำให้ผู้ชมได้แง่คิดบางอย่างกลับไปอยากให้ติดตามชมกันครับ”

การเป็นนักแสดงน้องใหม่ในสายละคร “มีน” เล่าให้ฟังเรื่องการปรับตัวที่ต่างจากซีรีส์ หรือ ภาพยนตร์ที่เคยแสดงมา

“ผมก็ถือว่าเป็นนักแสดงน้องใหม่ที่มาร่วมงานกับช่อง การทำงานกับพี่ๆ และนักแสดงท่านอื่นๆ สำหรับผมสนุกมากครับ เพราะพี่ๆ แต่ละคนเป็นคนสนุกและตลกกันมากอยู่แล้ว แล้วด้วยความที่เราเป็นน้องใหม่พี่ๆ เขาก็คงเอ็นดูเรามั้งครับ พี่เขาก็ชวนทำนั่นทำนี่ ชวนเล่น ชวนคุย เหมือนชวนเราไปเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมต่างๆ เหมือนเราเป็นครอบครัวเลยครับ”

“การมาเล่นเรื่องนี้มีนก็ปรับตัวเยอะเหมือนกันเพราะเมื่อก่อนเราเล่นแต่ซีรีส์ แล้วก็ก่อนเรื่องนี้ไปเล่นหนังมาก่อนด้วย พอมาเป็นละครวิธีการแสดงมันก็ต่างออกไปต้องเล่นให้ชัดขึ้น ปรับตัวอยู่นานเหมือนกันครับ ถ่ายไปหลายคิวกว่าจะเข้าที่เข้าทาง ทางพี่ผู้กำกับก็ช่วยเยอะ พี่เขาจะรู้ว่าตอนแรกๆ เรายังเล่นไม่ชัดเท่าพี่ๆ นักแสดงคนอื่น พี่เขาก็จะบรีฟเราให้เข้มขึ้น อธิบายเรื่องของอินเนอร์ให้เราเข้าใจมากขึ้น”

มีน ในเรื่อง เพชฌฆาตจันทร์เจ้า

“ทางแฟนๆ ก็สนับสนุนกันดีมากต้องขอบคุณจริงๆ ที่คอยซัพพอร์ตงานใหม่ๆ ของผมขนาดนี้ ทั้งคอยปั่นเทรนด์ คอยเม้าท์มอยในทวิตเตอร์ เราเห็นแล้วก็ดีใจ ตัวผมเองเห็นแฟนๆ คอยติดตามก็อยากให้เขาได้เห็นงานดีๆ จากเราครับ”

“ถามว่าคาดหวังกับบทบาทการเล่นละครไว้ยังไงบ้าง ผมก็คาดหวังนะครับ อยากเล่นบทดีๆ อยากลองอะไรที่ท้าทาย อยากเป็นพระเอก อยากเล่นบทที่มีความซับซ้อนมีการพัฒนาของตัวละครเยอะๆ หวังว่าจะดีขึ้นเรื่อยๆ ในเรื่องของความสามารถเราด้วยครับ”

เมื่อมีคำถามที่ว่าจะกลับไปแสดงสายวายอีกหรือไม่เจ้าตัวเล่าว่าขอพิจารณาจากบท ความน่าสนใจของเนื้อเรื่องมากกว่า

“การกลับไปเล่นสายวายอีกก็ต้องดูหลายๆ องค์ประกอบครับ เราไม่ได้แคร์ว่าจะเป็นวายหรือไม่วาย เป็นละคร หนัง หรือ ซีรีส์ แต่แคร์เรื่องของบทมากกว่า เราชอบบทไหม เล่นแล้วจะเป็นยังไง อย่างล่าสุดก็ไปแจมงานของน้องๆ นักศึกษาเพราะรู้สึกว่างานนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจ ส่วนถ้าเป็นเรื่องของวายก็คงเล่นแค่กับ พี่แปลน รัฐวิทย์ เหมือนเดิมครับ ตอนนี้มาอยู่กับช่องก็ต้องร่วมกันตัดสินใจในหลายๆ องค์ประกอบด้วยครับ”

มาถึงผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา มีน ยอมรับว่าได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน เรื่องรายได้ก็สูญไปหลายล้าน แต่ก็ต้องปรับตัวให้ได้

“ในเรื่องของการทำงานได้รับผลกระทบจากโควิดเยอะเหมือนกันนะครับช่วงที่ผ่านมา กระทบที่สุดก็เป็นช่วงแรกเลยเพราะตอนนั้นผมมีงานกับต่างประเทศอยู่ 2-3 ประเทศ สุดท้ายก็ต้องแคนเซิลไปหมดเลย งานในต่างประเทศก็แคนเซิลเหมือนกัน นอนเป็นผักอยู่บ้าน พอเริ่มปรับตัวได้ก็มีระลอกหลังๆ ตามมาอีก

ก็รู้สึกว่าสุดท้ายเราก็คงต้องอยู่กับมันไปแบบนี้แหละ ต้องดูแลตัวเองให้ดีที่สุด ถามว่านอยด์ไหมก็ไม่ได้ถึงขั้นนอยด์เพราะรู้สึกว่าทุกคนก็เจอเรื่องนี้เหมือนกัน เราอาจจะโชคดีกว่าคนอื่นๆ ด้วยซ้ำที่ยังคงพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง คนอื่นอาจจะโดนผลกระทบเยอะกว่าเรามากต้องปรับตัวกันเยอะเลย”

“ช่วงนั้นก็เรียกว่าเสียโอกาสได้เยอะครับ แต่เราก็ต้องปล่อยมันผ่านไปครับ มันทำอะไรไม่ได้เนาะ เสียดายแต่ก็ต้องไปต่อในอนาคตหาได้เยอะกว่านั้นอยู่แล้วครับ ปรับตัวกันไป (หัวเราะ)”

 มาถึงเรื่องราวของความรักกับสาวสวย “ดรีม อภิชญา” ตอนนี้เจ้าตัวอัปเดตให้ฟังแบบเคลียร์ๆ ว่าอยู่ในช่วงการพัฒนาความสัมพันธ์

 “ความรักตอนนี้เรื่อยๆ เลยครับ ช่วงนี้ทำงานหนักไปหน่อย ได้เจอกันบ้าง จะเรียกว่าเปิดตัวชัดเจนไหมก็ไม่ได้ขนาดนั้นนะ ปล่อยไปตามเรื่องตามราวครับ หลายคนมองว่าไม่ค่อยเห็นรูปคู่อาจะเพราะว่าไลฟ์สไตล์ของเราจะไม่ค่อยได้ลงรูปคู่อะไรกันอยู่แล้วด้วย เวลาไปไหนทำอะไรเราจะไปเป็นแก๊งกันมากกว่า”

“สถานะตอนนี้เรียกว่าแฟนได้แล้วไหมเหรอครับ ก็ยังไม่ได้ตกลงกันขนาดนั้น ตอนนี้ถ้าพูดตรงๆ เลยก็คือการคุยกันไปเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ก็ดีขึ้นเรื่อยๆ ครับ”

“ก่อนหน้านี้ที่เขาโดนโจมตี ผมว่าก็คงไม่มีใครที่อยากเป็นเป้าให้ถูกว่าจากการกระทำที่ตัวเองก็ไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี เราก็พูดคุยให้กำลังใจกันไม่ว่าจะเป็นใครก็ตามที่โดนอะไรแบบนี้ เพราะทุกคนไม่ได้มีเจตนาที่ไม่ดี สิ่งที่เกิดขึ้นเราก็รับฟังเป็นความคิดเห็นที่ดี แต่ถ้าอันไหนที่รุนแรงหรือกระทบต่อจิตใจจนเกินไปก็แนะนำว่าข้ามๆ ไปบ้าง”

มีน พีรวิชญ์

เหมือนไม่ค่อยอยากเปิดเรื่องความรักเท่าไหร่ เพราะเกรงใจแฟนคลับหรือเปล่า?

“ส่วนหนึ่งก็เกรงใจ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นปิดบัง เราก็อยากให้ค่อยเป็นค่อยไป เราไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไง เราก็ไม่อยากให้สิ่งพวกนี้ถูกวิพากษ์วิจารณ์จากคนอื่นมากจนเกินไป เพราะสุดทายมันก็มีมุมที่เรารู้กันอค่ไม่กี่คน มุมมองที่คนส่วนใหญ่รู้ คิดว่ารู้แต่มันไม่ใช่ อะไรแบบนี้ครับ เราไม่อยากไปต่อความยาวสาวความยืดเลยเป็นคนที่ไม่ค่อยเปิดเผยเรื่องแบบนี้สักเท่าไหร่นัก แต่ไม่ถึงขั้นปิดบัง ใส่หมวกใส่แว่นดำไปกินข้าวขนาดนั้น ใช้ชีวิตปกติครับ”

“ดรีมเขาก็โอเคนะ เป็นสิ่งที่เราคุยกันตั้งแต่แรกแล้วว่าไลฟ์สไตล์เราแต่ละคนเป็นแบบไหนมันถึงจะสานต่อความสัมพันธ์กันได้ครับ ดรีมเขาเป็นคนที่เราอยู่ด้วยแล้วทำให้เรามีจิตใจที่ดีมากขึ้น มีชีวิตชีวามากขึ้น โลกสดใสมากขึ้น ก็ดีครับ ดีกับการทำงานด้วยนะผมว่า เราปรึกษากันทุกเรื่องแชร์กันตลอด อย่างเรื่องความเข้าใจที่ไม่ตรงกันเราก็มี เรามีแนวคิดแบบนึง เขามีแนวคิดอีกแบบนึงเราก็มาคุยกัน สุดท้ายก็หาตรงกลางสำหรับทุกคนได้ เพราะเอาจริงๆ ความคิดของเราเราอาจจะคิดผิดอยู่ก็ได้นะ เรียกว่าค่อยๆ เรียนรู้กันไปเรื่อยๆ ทำทุกวันให้ดีที่สุด ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป ไม่เร่งรัด ไม่เร่งรีบ ใช้ชีวิตให้สบายและมีความสุขในทุกๆ วันครับ”

“เรื่องกระแสต่างๆ ตอนนี้ก็ดีขึ้นนะครับ ทุกคนก็เข้าใจ ผมว่าเป็นเรื่องของเวลา เรื่องของนิสัย คาแร็กเตอร์ที่เมื่อคนเห็นมากขึ้นเข้าใจมากขึ้นก็เริ่มโอเคขึ้น จริงๆ ใจมีอยากให้ทุกคนโอเคนะ เพราะมันก็เป็นอีกหนึงมุมของเราที่พัฒนาเราในหลายๆ ด้าน ทั้งการใช้ชีวิตและความรู้สึกมันเป็นอะไรที่ดีมากๆ อยากให้ทุกคนมีความสุขไปกับเราครับ”

“เราคุยกันมาเรื่อยๆ แต่ยังไม่ใช้คำว่าคบดีกว่า เป็นช่วงพัฒนาความสัมพันธ์ คุยกันไปเรื่อยๆ ครับ”

สุดท้ายนี้ มีน ได้ฝากแฟนๆ ถึงผลงานชิ้นล่าสุดของเขาว่า “สุดท้ายฝากละครเพชฌฆาตจันทร์เจ้า ด้วยครับ เรื่องนี้เข้มข้นและยังไงก็ต้องขำ สนุกมาก ตลกมากจริงๆ ครับ”