ภรรยา “เด่น ดอกประดู่” เปิดใจช่วงเวลาสุดท้าย เขานอนหลับไปสบาย ไม่ทรมาน

วงการตลกต้องเสียบุคลากรคนสำคัญอีกครั้ง เมื่อ เด่น ดอกประดู่ หรือ บรรพต วีระรัฐ ศิลปินตลกรุ่นใหญ่ วัย 80 ปี ได้จากไปอย่างสงบด้วยโรคชราเมื่อช่วง 01.30 น. ที่ผ่านมา

โดยก่อนที่จะเข้าสู่พิธีการรดน้ำศพ และสวดพระอภิธรรมในคืนแรก ณ วัดศิริพงษ์ธรรมนิมิต ทางด้าน สุวพันธ์ อุบลชาติ ภรรยาคู่ชีวิตของอดีตตลกดัง ก็ได้ออกมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า…

“เมื่อคืนนี้แกก็หลับสบายไปเฉยๆ เมื่อสักประมาณ ตี 1 ครึ่ง เพราะว่าที่แม่ดูครั้งสุดท้ายตอนยังไม่ถึงตี 1 แกก็ยังหายใจอยู่ แต่พอประมาณสักตี 1 ครึ่ง น้องที่ดูแลเขาก็มาบอกว่า ‘ท่าทางจะไม่ค่อยดีแล้ว อยากให้แม่ไปดู’ ซึ่งพอแม่ไปดู ตอนนั้นแม่ก็บอกเขาว่า ‘หลับให้สบายเลยนะไม่ต้องห่วงลูก เหนื่อยมาเยอะแล้วหลับให้สบาย ไม่ต้องเป็นห่วงอะไร’ จริงๆ เรื่องอาการป่วยของแกที่เป็นมาหลายปีก็คือโรคอัลไซเมอร์ แกอายุเยอะแล้ว ชราแล้ว เรื่องทานข้าวก็ทานได้น้อยลง เวลาให้ทานก็ไม่ค่อยทาน ซึ่งคุณหมอก็ได้อธิบายว่าโรคอัลไซเมอร์ลักษณะมันจะเป็นแบบนี้ คือถ้าเป็นแล้วจะทานข้าวไม่ค่อยได้ พอนานเข้าก็จะติดเตียง แต่โชคดีที่แกไม่ได้ไปถึงขั้นต้องโยงสายยาง และตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาเราก็ดูแลกันเต็มที่ค่ะ

เรื่องการใช้ชีวิตก่อนหน้านี้เป็นอย่างไรบ้าง ?
ประมาณสักร่วมอาทิตย์นี่แหละค่ะที่แกไม่ค่อยเดิน แต่เมื่อก่อนนี้แกยังเดินได้อยู่ และก็เดินน้อยลง น้อยลงเรื่อยๆ แต่ตอนหลังต้องพยุง และช่วงก่อนจะเสียก็เริ่มใช้รถเข็นแล้ว เข็นไปทานข้าวไปนั่นไปนี่ เพราะแกเริ่มไม่ค่อยเดิน เดินไม่ไหวเนื่องจากทานข้าวน้อย หมดแรง คือแกทานข้าวน้อยมากเลย แต่เราก็พยายามบำรุงนะ บำรุงให้ดีที่สุด และเวลาพูดคุยกันแกก็รู้เรื่องนะ ตอบสนองตลอด ยังสื่อสารกันได้

เรื่องความจำเป็นอย่างไรบ้าง จำรายละเอียดต่างๆ ได้ไหม ?
เป็นบางเวลาค่ะ บางเวลาก็จำได้ บางเวลาก็จำไม่ได้ สมัยก่อนก็น่าจะเคยเห็นข่าวกันเรื่องที่แกหนีเที่ยว คือบางอารมณ์ก็ดี บางอารมณ์ก็หงุดหงิด หงุดหงิดก็หนีออกจากบ้าน แต่ไปไหนได้ไม่นานหรอกแป๊บๆ แกก็กลับ แกเป็นคนติดบ้าน

แต่ช่วงหลังมานี้ก็คือไม่ค่อยได้ออกไปไหนแล้ว ?
6 เดือนค่ะ แกเดินอยู่แต่ในบ้าน ขนาดหน้าประตูแกยังไม่ออกไปเลย เหมือนแกเริ่มเบื่อแล้ว และก็บอกตลอดว่า ‘เบื่อ ไม่ไป’ ชวนออกไปไหนก็จะตอบแค่ ‘เบื่อ ไม่ไป’  

มีสัญญาณอะไรมาก่อนไหม ?
ไม่มีเลย อย่างเมื่อเช้านี้ตอนเข้าไปก็บอกแกแค่ว่า ‘เหนื่อยก็พักนะ หลับไปเลย’ และก็นอนหลับไปเลยจริงๆ ไม่ปวด ไม่อะไร ไม่ทรมานเลย คิดว่าแกไปสบาย แต่ก็ไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะเร็วขนาดนี้

ก่อนเข้านานได้พูดอะไรหรือสื่อสารอะไรไหม ?
ไม่มีเลยค่ะ ไม่มีอะไรเลย เฉยๆ แกคงเหนื่อย อายุแกก็เยอะแล้ว เหมือนโรคชรา

มีคำสั่งเสียไหม ?
ไม่ได้สั่งอะไรเลย จะมีก็แค่เรื่องการดูแลโรงงานเท่านั้นแหละ แกห่วงโรงงาน แต่ก่อนจะเสียนะเวลาอาบน้ำให้แก แกก็จะร้องเพลง ‘ไม่ลองไม่รู้’ ตลอด  ยังมีอารมณ์ศิลปินอยู่เลย สบายๆ

ชีวิตคู่ที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ?
ประมาณสัก 50 ปีแล้วมั้งคะ เอ่อ…แกก็เป็นคนที่รักครอบครัว ถึงแม้บางทีผู้ชายจะมีนอกลู่นอกทางบ้าง แต่แกก็รักครอบครัว รักครอบครัวมาก ไปไหนก็ตามไม่เกิน 3 วันหรอก เดี๋ยวก็กลับมาหน้าบ้าน พร้อมกับพูดว่า ‘ขอโทษนะ ไม่ทำอีกแล้ว’ ซึ่งเราชินแล้วอ่ะ อย่างที่แกป่วยบางคนมาเห็นเขาก็ไม่เข้าใจคนเป็นโรคอัลไซเมอร์นะ คือคนเป็นโรคนี้เราจะขัดใจเขาไม่ได้ ถ้าเขาอยากไปเขาก็ไป แต่เดี๋ยวเขาก็กลับมาเอง ซึ่งพอเป็นแบบนี้คนก็จะคิดว่าลูกเมียไม่ดูแล แต่จริงๆ แล้วเราไม่รู้ว่าเราจะตามยังไงมากกว่า เพราะเราเองก็อายุเยอะ ต้องเข้าใจเลยค่ะ

เราเอากำลังใจมาจากไหน ?
คือเราอยู่ด้วยกันมา เราก็อยากดูแลเขา อยากดูแลเขาให้ดีที่สุด คุณหมอเองก็ยังแนะนำเลยว่า ถ้าแกอยากกินอะไร หรืออยากทำอะไร ก็ปล่อยให้แกได้ทำ เพราะเดี๋ยวพอแกมีความสุขแกก็จะหยุดเอง แต่ถ้าเราไปห้ามไปอะไรมันจะมีเรื่องของอารมณ์เข้ามาเกี่ยว และถ้าแกอารมณ์ขึ้นก็จะกลายเป็นเรื่องยุ่ง ดังนั้นที่ผ่านมาตามใจแกทุกอย่าง คนเป็นอัลไซเมอร์ไม่ได้ดูแลง่ายๆ นะ ดูแลลำบาก

วันนี้ได้บอกอะไรบ้าง ?
ก็บอกแกว่าเหนื่อยมากแล้วนะ ให้ได้หลับสบาย ไปดีๆ ไม่ต้องห่วงอะไรทั้งสิ้น ลูกเมียไม่ได้ลำบาก เหนื่อยมาเยอะแล้วอยากให้ไปสบายๆ ส่วนตัวแกเองก็เองมักจะบอกอยู่ตลอดว่าให้เข้าไปดูโรงงานบ่อยๆ เพราะช่วงหลังแกไปไม่ค่อยไหว ซึ่งเราก็ไปตลอด ไปดูเองทุกอาทิตย์

หลังจากนี้เรื่องของอัฐิต่างๆ จะจัดการอย่างไร ?
ต้องดูก่อนค่ะ แต่คิดว่าคงเป็นการนำไปลอย

เพื่อนๆ ในวงการตลกมาช่วยเหลือตลอด ?
ถั่วแระส่งอาหารมาให้ประจำเลย ไม่ว่าจะเป็นข้าว หรือเป็นก๋วยเตี๋ยว คือเขารู้ว่าแกชอบกิน บางทีมาเยี่ยมมาหาก็จะมานั่งพูดคุยหยอกล้อกันตามประสา จำได้บ้าง จำไม่ได้บ้าง คือรู้ว่าเป็นถั่วแระ แต่บางครั้งเขาก็นึกชื่อไม่ออก เหมือนสมองเขายังจำเรื่องราวในอดีตได้ ชวนไปเล่นตลกเขาก็เล่นได้ เขารักมาก เลือดศิลปินยังเยอะ ขนาดเวลาเจอถั่วแระเขายังบอกเลยว่า เมื่อไหร่จะพาเขาไปเล่นด้วยสักที เหมือนเขาอยากเล่น ประมาณว่าร่างกายอาจไม่ไหว แต่ว่าความอยากยังมีอยู่