“บุ๋ม ปนัดดา” ตอบได้ปังมาก เมื่อถูกถามปมดราม่า วิจารณ์ “แอนชิลี” เหยียบธง

นับเป็นอีกหนึ่งประเด็นดราม่าที่ก่อให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายเรื่องความไม่เหมาะสม  สำหรับภาพของ แอนชิลี สก็อต-เคมมิส นางงามเจ้าของมงกุฎ Miss Universe Thailand 2021 ขณะกำลังยืนโพสท่าอยู่บนธงชาติ

จากประเด็นดังกล่าวนี้เอง ทางด้าน บุ๋ม-ปนัดดา วงศ์ผู้ดี นักแสดงสาวชื่อดัง และนางสาวไทย 2543 ก็ได้มีโอกาสออกมาแสดงความเห็นกับกองทัพสื่อหลังถูกจ่อไมค์ถามกลางงาน รณรงค์ยุติความรุนแรง ประจำปี 2564 โดยเธอเผยว่า จริงๆ โดยส่วนตัวแล้วอยากให้มองเรื่องนี้ที่เจตนามากกว่า และที่สำคัญคือไม่อยากให้มีเรื่องราวใดๆ ไปบั่นทอนจิตใจของ แอนชิลี ก่อนถึงวันสำคัญด้วย พร้อมกับทิ้งท้ายว่า ใครที่คาดสายสะพาย Thailand หรือนำประเทศไปสู่ตรงนั้น เราก็ควรที่จะสนับสนุนให้เต็มที่

ในฐานะนางงามรุ่นพี่ เรามีความเห็นยังไงบ้างกับกระแส แอนชิลี ถูกโจมตีว่า ไม่รักชาติ เหยียบธงชาติ ?
“ต้องดูที่เจตนานะ ดูที่เจตนาของการกระทำ คือถ้าเป็นการเอาธงชาติมาเหยียบและกระทืบ หรือเอามาเผาไฟ อันนั้นคือการเหยียดเต็มๆ แต่ถ้าหากเป็นภาพที่เขายืน และมีข้อความว่า Road to the universe พร้อมกับคาดสายสะพายที่เขียนคำว่า Thailand อันนี้เราต้องแบ่งแยกเจตนาตรงนี้ด้วยเช่นกัน แต่มันก็อาจจะเป็นความถือสาของคน คนที่เขารักมากๆ ซึ่งเราก็ต้องฟังความเห็นที่หลากหลาย เพียงแต่ว่าอยากให้ดูเจตนาของน้องและกองประกวดร่วมด้วย เขาไม่ได้มีเจตนาหรอก เขาแค่อยากนำเสนอความภาคภูมิใจของประเทศไทยที่นำไปสู่จักรวาล ฉะนั้น ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นนางงาม จะเป็นนักกีฬา หรือใครด้านไหนก็ตาม ใครที่คาดสายสะพาย Thailand หรือนำประเทศไปสู่ตรงนั้น เราต้องสนับสนุนเต็มที่ค่ะ”

เรื่องนี้ค่อนข้างละเอียดอ่อน มีทั้งคนที่เข้าใจและไม่เข้าใจ ?
“มันต้องใช้เวลาค่ะ แต่จริงๆ แล้วบุ๋มอยากให้ดูเจตนามากกว่า ไม่อยากให้มานั่งด่าด้วยความรุนแรงผ่านโซเชียล คือเราแสดงความคิดเห็นได้ แต่ก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของคนอื่นด้วย”

ตัวเราเองมองเรื่องนี้ยังไง ?
“บุ๋มภาคภูมิใจด้วยซ้ำไป แต่อย่างที่บอก อยากให้มองที่เจตนา และก็ไม่อยากให้มีเรื่องอะไรไปบั่นทอนกำลังใจน้องในวันนี้ด้วย ก่อนที่จะถึงวันสำคัญของเขา”

ปีนี้เราเชียร์ยังไงบ้าง ?
“ในฐานะที่เป็นกรรมการ และเคยได้เจอกับน้อง บุ๋มรู้สึกเลยว่าเขาค่อยๆ มีออร่ามากขึ้นในทุกๆ วัน บุ๋มเชื่อว่าไม่ว่าเขาจะอยู่รอบไหนก็ตาม เขาจะทำได้ดีที่สุด อีกอย่างคืออย่าไปกดดันนางงามเราเยอะเกินไป เรามักจะกดดันด้วยความคาดหวังของพวกเรา ซึ่งบุ๋มเข้าใจนะคะ เพียงแต่ว่าความกดดันนั้นไม่ได้สร้างสิ่งดีๆ ให้ และน้องก็ต้องสร้างความเข้มแข็งเพื่อลดความกดดันตรงนี้ ฉะนั้นเราส่งกำลังใจดีกว่า ส่งคำพูดดีๆ ดีกว่า ทำให้ดีที่สุด และได้ออกมายังไงเราก็ภูมิใจที่อย่างน้อยก็มี Thailand เป็นหนึ่งในนั้น”

น้องสร้างปรากฎการณ์หลายอย่างที่หลายคนชื่นชม ?
“อย่างเรื่องของ Real Size Beauty ตัวบุ๋มเองก็สู้มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เพราะบุ๋มก็เป็นนางงามคนหนึ่งที่เคยบิ๊กไซส์มาก่อน และตอนนี้ถึงจะลดลงมา มันก็ยังไม่ได้สมอลล์ไซส์เหมือนชาวบ้านหรือไซส์เล็กเหมือนใครเขา เพียงแต่บุ๋มอยากให้ทุกคนเห็นว่าทุกวันนี้บุ๋มก็ยังได้รับกำลังใจจากแฟนๆ ได้รับงานในวงการ ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเพราะคุณภาพของการทำงาน ไม่ได้อยู่ที่รูปร่างของเรา และน้องแอนชิลี ก็ถือว่าเป็นการนำมิติใหม่ที่ควรจะมีมาสู่สังคมไทย ทำให้เกิดการยอมรับตัวตน เพราะทุกคนรูปร่างหน้าตาผิวพรรณแตกต่างกันทั้งหมด ดังนั้นสำหรับ Real Size Beauty ก็คือสิ่งที่บุ๋มอยากให้เกิดขึ้นในสังคมไทยมานานมากแล้ว ส่วนการที่น้องใช้ชุดรียูส อันนี้ก็เป็นการทำการบ้านที่เก่งมากของกองประกวด บุ๋มต้องขอชื่นชม เนื่องจากคอนเซปต์ปีนี้ของการประกวดเขาเน้นเรื่องสิ่งแวดล้อม ดีเลยค่ะ”

แอนชิลี สก็อต เคมมิส

ตอนนี้มีโปรเจกต์อะไรอยู่ในมือบ้าง เหมือนเราจะงานยุ่งน่าดูเลย ?
“ตอนนี้บุ๋มกำลังทำโครงการ ป้าข้างบ้าน อยู่ค่ะ คือโครงการป้าข้างบ้านบุ๋มคิดว่าไวกว่ากล้องวงจรปิดอีกนะคะ เพราะมันเคยเกิดเคสหนึ่งที่เด็กอายุ 4 ขวบ หายไป และปรากฎว่ายามคือคนที่พาเด็กไปข่มขืนและหมกท่อ แต่กว่าที่จะเจอเราต้องไปเจอตำรวจ ขอดูกล้องวงจรปิด ซึ่งมันก็กลายเป็นว่าเราช่วยเด็กไม่ทัน แต่ ณ ตอนนี้ อย่างเช่นเวลาที่บุ๋มไปตามชุมชนต่างๆ บุ๋มก็จะฝากคำพูดถึงบรรดาผู้ปกครองผู้หลักผู้ใหญ่ในระแวกนั้นๆ ว่า ‘ช่วยดูแลเด็กๆ ด้วย’ ป้าข้างบ้านทั้งหลายที่อยู่กับบ้าน คุณตาคุณยายที่ไม่ได้ออกไปไหนแต่หูตายังดีอยู่ ก็ขอให้ช่วยดูแลเด็กๆ ด้วยเหมือนกัน ช่วยแจ้งพวกเราด้วย พวกเราทำงานกัน 24 ชั่วโมงค่ะ”

เป็นโครงการจริงจังเลยใช่ไหม ?
“จริงจังค่ะ และจริงๆ เราเริ่มมานานแล้วด้วยนะ เริ่มก่อนที่จะมีโควิดด้วยซ้ำ จนกระทั่งมาเจอโควิดเราก็เลยไปลงพื้นที่กันไม่ได้ แต่เราก็พยายามทำให้ทุกๆ ชุมชนเข้มแข็งมากขึ้นด้วยคนในชุมชนกันเอง เพราะบุ๋มเชื่อว่าถ้าหากเขาดูแลกันเองได้ มันจะดีและเร็วที่สุดในระยะยาว”

มีป้าข้างบ้านให้ความร่วมมือเยอะไหม ?
“มีค่ะ มีเยอะเลย มีแจ้งกันเข้ามาเรื่อยๆ และเราก็แนะนำไปว่าควรทำอย่างไรบ้าง 1 2 3 4 หรือไม่ก็แจ้งหน่วยงานในพื้นที่ให้ลงไปดูแลช่วยเหลือ ส่วนเคสที่แจ้งเข้ามาตั้งแต่มีโควิด เคสความรุนแรงเยอะมากเป็นทวีคูณ มีรายวันเลยค่ะ วันละหลายชั่วโมง และเคสล่วงละเมิดก็เยอะขึ้นด้วยเหมือนกัน ดังนั้นถ้าถามว่าเหนื่อยไหม เหนื่อย เพราะเราทำงานทุกด้าน งานในวงการเราก็ยังทำ งานช่วยเหลือเคสสังคมต่างๆ ก็ยังมี คือทำงานแทบจะ 24 ชั่วโมงของชีวิตเลยค่ะ”

บุ๋ม ปนัดดา วงศ์ผู้ดี

ชีวิต บุ๋ม ปนัดดา มีหมวกหลายใบให้ต้องสวมและต้องรับผิดชอบ ?
“ช่วงนี้ก็เลยไม่ค่อยได้รับละครไงคะ เพราะบุ๋มอยากจะมาดูแลงานช่วยเหลือสังคมก่อน แต่ถามว่ามีผู้หลักผู้ใหญ่ติดต่อมาบ้างไหม ก็มีค่ะ เพียงแต่บุ๋มก็ต้องดูระยะเวลาด้วยเหมือนกัน เนื่องจากมันคาดเดาอะไรค่อนข้างยาก แต่ก็จะพยายามทำทุกๆ อย่างให้ดีที่สุด โดยเฉพาะการดูแลลูก เพราะสังคมยุคนี้การสร้างความเข้มแข็งให้ลูกหลานก็เป็นสิ่งสำคัญ ไม่ใช่ดูแลคนอื่น แต่ลูกตัวเองไม่ดูแล”

เราปฏิเสธละครไปเยอะไหม ?
“ไม่เยอะค่ะ เพราะเวลาผู้ใหญ่ติดต่อมาเขาก็จะบอกว่า ถ้าบุ๋มเล่นมันต้องเป็นตัวเด็ดๆ หรือบางครั้งเขาก็ช่วยดูภาพลักษณ์ให้บุ๋มด้วยเหมือนกัน เขากลัวบุ๋มเสียภาพลักษณ์ปนัดดา คือมีความเกรงใจบทบาททางสังคมบุ๋มมากขึ้น ดูอะไรหลายๆ อย่าง”

ตัวเราเองรู้สึกยังไงบ้าง ?
“ถ้าเราเล่นถึงพริกถึงขิงแล้วเขาอิน อันนี้เราต้องภูมิใจนะ ภูมิใจที่เขาเชื่อว่าเราเล่นเป็นตัวละครนั้นได้ แต่ถ้าเขาดูแล้วเขายังจำว่าเราเป็นบุ๋มคนเดิมมันก็คงไม่สนุก”

เรื่องละครก็เว้นไว้ก่อน ?
“ถ้าจะรับก็ต้องเป็นบทที่มันส์จริงๆ ค่ะ”