“กระติก” ผู้จัดการส่วนตัว “แตงโม” แจงไทม์ไลน์บนเรือ เผยเหตุไม่ได้แจ้งคุณแม่

 กระติก ผจก.ดาราสาวและ แซน วิศาพัช เล่าไทม์ไลน์บนเรือยืนยัน แตงโม ปวดปัสสาวะ ด้าน ผจก.เผยเหตุผลไม่ได้โทรแจ้งคุณแม่

วันนี้ (27 ก.พ.) กระติก อิจศรินทร์ ผู้จัดการส่วนตัวของ แตงโม นิดา ดาราสาวที่เสียชีวิตจากพลัดตกเรือสปีดโบ้ทกลางแม่น้ำเจ้าพระยา ได้เปิดใจถึงเหตุการณ์ไทม์ไลน์ที่เกิดขึ้นพร้อมกับ แซน วิศาพัช เพื่อนที่อยู่บนเรือสปีดโบ้ท

ไทม์ไลน์บนเรือ

กระติก: “เริ่มต้นปอเป็นเจ้าของเรือเป็นเพื่อนกับติกมานานชวนมาเจอเพื่อนเก่ากัน เราก็คุยกันมาเรื่อยๆ ผ่านการเม้นต์ภาพมาตลอดติกเลย ไประดมเพื่อนที่รู้จักกันอยู่แล้ว โม แข น้อยโหน่ง และติก คุณแขติดงานมาไม่ได้เราก็เลยชวนแซนมาเป็นตัวสำรองเป็นจุดเริ่มต้น พอถึงวันนัดกันที่ 4 โมงไปแต่งตัวที่บ้านโม ติกกับโมไปเลทไปถึง 4:45 เราไปเจอเพื่อนปออีกสองคน แต่เขาก็แจ้งก่อน แต่เราก็เข้าใจในฝั่งเขานะเขาเป็นผู้ชายคนเดียว จากนั้นก็ล่องเรือไปเรื่อยๆ จนถึงร้านอาหารใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ก่อนกลับทุกคนไปปัสสาวะเข้าห้องน้ำทุกคนไปยกเว้นโม แต่เขาบอกว่าไม่ปวด ก็เลยไม่ได้คะยั้นคะยอ ระหว่างทางเราก็มีแวะถ่ายรูป จนเกิดเหตุประมาณสี่ทุ่ม”

“ตอนโมไปปัสสาวะท้ายเรือเราไม่เห็น เพราะเราหยุดกิจกรรมถ่ายรูป แต่เราก็ได้ยินเขาบ่นว่าปวดฉี่เขาก็ไม่ได้แสดงว่าทนไม่ไหว ได้ยินเสียงอีกทีคิอแซนตะโกนว่าโมตกเรือ และติกเห็นปอหมุนพวงมาลัยกลับและก็เป็นกระบวนการตาหา”

ตอนที่ตกคุณแซนเห็นจังหวะแตงโมพลัดตกเป็นอย่างไร

แซน : “ลักษณะโมพลัดตกคือพลิกด้านข้าง (เขาไปปัสสาวะด้านหลังโดยเกาะอะไรไว้ไหมคะ?) เกาะขาแซนสองข้างหันหลังออกท้ายเรือหันหน้าเรือ แซนนอนเล่นมือถืออยู่ คือเขาเดินมาบอกแล้วเขาก็นั่งลงไปเลยเพราะทุกอย่างมันเร็วมากมันไม่สามารถที่จะบอกว่าแป๊บนึงหรืออะไรได้เลย (ชุดของแตงโมเป็นบอดี้สูท?) พี่ไม่เคยเหรอคะไม่ต้องปัสสาวะแบบรีบๆ ในชุดบอดี้สูทถ้าเกิดเคยก็คงจะทราบว่าต้องทำอย่างไรอย่าให้แซนต้องอธิบายตรงนี้เลยมันไม่ค่อยสุภาพเท่าไหร่ (บอดี้สูทมีสองประเภทหรือเปล่า) แซนก็ไม่ได้สังเกตโดยละเอียดขนาดนั้น”

กระติก : “ลักษณะของการปัสสาวะของคนที่ใส่บอดี้สูทในเวลารีบๆ เราไม่ได้ถอดนะคะเขาแหวกข้างจากประสบการณ์ที่ติกทำนะคะ แล้วติกไม่ทราบว่าโมทำหรือเปล่าแต่มันทำอย่างนั้นได้ แล้วบนเรือมีผู้ชายอยู่ด้วยและมันเป็นที่โล่งแจ้งคงไม่มีใครมาถอด แล้วเสื้อโค้ทก็ใส่ผ้าคลุมก็ใส่เป็นติกก็จะเลือกแหวกข้างมันสะดวกที่สุดณตอนนั้นภาพสุดท้ายที่เห็นคือแตงโมมใส่เสื้อ”

จังหวะนั้นแตงโมได้บอกใครไหม?

กระติก : “ไม่ทราบเลยติกมารู้อีกทีคือโมตกไปแล้ว เขาก็เล่าให้ฟังว่ามันเร็วมาก ติกนึกภาพตามว่าความเป็นไปได้มันมีประเด็นอย่างอื่นเราไม่ทราบแล้ว เราอยู่ในเหตุการณ์แต่เราไม่เห็นว่าเพื่อนเราตกลงไป”

“ปอกับเบิร์ตเขาสลับกันขับ เพราะติกไม่ได้สนใจในจุดนั้น ปอเป็นเพื่อนกับทุกคน ติก แซนสนิทค่ะ ติกคัดมาแล้วว่าต้องสนิทขี้เกียจดูแล คุณจ็อบกับคุณเบิร์ตเพิ่งรู้จักวันนั้นแต่ทางปอแจ้งแล้วว่าเดี๋ยวจะมีเพื่อนมาด้วยอีก 2 คนเราเข้าใจเขานะเพราะเขาเป็นผู้ชายคนเดียวทุกคนไม่ติด”

“ปอเป็นเจ้าของเรือ ปอชวนติกคนเดียวและให้ติกชวนเพื่อนเก่าๆ ซึ่งเราก็ไปหามาว่าใครรู้จักปอบ้างและโควิดเราไม่ชวนใครแปลกหน้าอยู่แล้ว ตอนแรกจะเป็นติก โม น้อยโหน่ง เราจะนัดกันอยู่แล้วเผอิญว่ามีช้อยส์ปอเข้ามาเพราะว่ามันส่วนตัวมันดีเป็นเรือที่ดีเพื่อนเราก็จะได้ภาพสวยๆ ไม่ได้มีเรื่องงานอะไรเข้ามาก่อนเลยสักนิดนึง ติกก็เข้าใจ และก็ต้องขอโทษทุกคนที่ไม่ได้ออกมาพูดอะไรเพราะเรายังไม่พร้อมสภาพจิตใจเรามันมัวแต่ไปอยู่กับเพื่อนติกก็งงๆ ว่าสรุปเราจะรู้สึกยังไงเราจะนั่งฟูมฟายที่เพื่อนเราหายไปได้ไหมมันก็ไม่ได้เพราะทุกคนต้องมานั่งรุมถามเราว่าเกิดอะไรขึ้นอยากมีเวลาตรงนั้นให้โมนะแต่มันไม่มีตรงนั้นเลยคนอื่นเขาเสียเพื่อนไปเขาได้นั่งร้องไห้คิดถึงอาลัยเพื่อน แต่ของติกไม่มีเลยนะติกต้องมานั่งเตรียมตัวตอบคำถามติกอยากขอความเห็นใจทุกคนด้วยนะคะติกก็ตอบอะไรไม่ได้มากเพราะว่าเราไม่ได้เห็นเขาหล่นลงไปหลายคนอาจจะโทษนะทำไมดูแลเพื่อนไม่ดีติกเข้าใจติกก็โทษตัวเองตรงนั้นเหมือนกันแต่ตอนนั้นเราแค่อยากมีเวลาเป็นของตัวเองนั่งชมวิวแค่นั้นเองไม่มีอะไรมากไปกว่านั้นเลย”

“ไม่มีการรับงานหรือใดๆ ทั้งสิ้นเป็นการไปเที่ยวลงเรือกับเพื่อนชวนเพื่อนเพื่อนซี้อเรือเป็นเจ้าของเรือเราก็ไปไม่ได้มีเรื่องประเด็นเงินติกก็ไม่เข้าใจมันมาได้ยังไงเหมือนกัน ซึ่งรายละเอียดตรงนี้ติกแสดงความบริสุทธิ์ใจกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไปหมดแล้ว”

“ประเด็นทะเลาะกันไม่มีทางจะเกิดขึ้นได้เรารักกัน เขารับลูกเราเป็นลูกบุญธรรม แล้วถ้าโมเสียชีวิตไปเงินติกก็หายไปเหมือนกัน งานติกอะไรติก ลูกต้องเข้าโรงเรียนเขาช่วยเหลือมาตลอด แล้วถ้าเราไปผลักเขาหรือทะเลาะกันติกทุบหม้อข้าวตัวเองนะคะ งานในวงการบันเทิงทุกคนก็ทราบดีว่ารายได้มันค่อนข้างดี แต่ตรงนี้ติกไม่มีแล้วติกลำบากนะคนเรามันจะหาความลำบากมาให้ตัวเองเหรอ อยากให้คิดตรงนี้นิดนึง”

ประเด็นไม่ได้บอกกล่าวคุณแม่

“ประเด็นที่หนึ่งติกสนิทกับคุณพ่อมากๆ คุณพ่อจากไปแล้วเพราะฉะนั้นเราจะหาคนที่สนิทที่สุดก่อนแล้ว เราตั้งใจหาเจ้าหน้าที่ก่อน แม่ประดาน้ำไม่เป็น แม่ไม่มีอุปกรณ์ใดๆ แล้วเราอยู่กันคนละบ้าน ซึ่งต้องบอกตามตรงว่าไม่ได้สนิทอะไรกับคุณแม่มากขนาดที่แบบจะโทร ถ้าคุณแม่เคืองคือติกเข้าใจคุณแม่นะ แต่คุณแม่ต้องเข้าใจในมุมติกว่าหัวติกมีแต่คุณพ่อเลยถ้าคุณพ่ออยู่ คุณพ่อรับและมาตรงนี้แน่นอนคุณพ่อช่วยเราได้ คุณพ่อกว้างขวาง ตอนนั้นเราคิดว่าคุณแม่หลับตื่นมารับยังไม่รู้เลย เอาจริงๆ ไม่ได้อยู่ในหัวด้วยซ้ำไม่ได้คิดว่าจะไม่โทรหาด้วยซ้ำคือไม่มีเลยนะมันคือศูนย์”

ประเด็นคุณแม่ให้สัมภาษณ์มีคนพยายามพาคุณแม่ไปและบอกว่าอย่าเพิ่งให้ข่าว

“ต้องถามคุณแม่และให้คุณแม่ชี้ตัวเลยค่ะ ตั้งแต่เกิดเรื่องติกเพิ่งคุณกับคุณแม่เมื่อวานตอนพบโมแล้วตอนที่กำลังจะไปนิติเวช ตอนเหตุการณ์ติกไม่ได้คุยกับแม่เลย ให้ถามคุณแม่ได้เลยค่ะ”