“นก วนิดา” ผ่านมรสุมชีวิต ขอบคุณโอกาสได้คืนวงการ ตั้งใจทำงานเพื่อครอบครัว

ผ่านบทเรียนชีวิตมาอย่างโชกโชน สำหรับตลกหญิงชื่อดัง นก-วนิดา แสงสุข หรือ นก เชิญยิ้ม หลังเคยถูกดำเนินคดียาเสพติด เมื่อ 13 ปีที่ผ่านมา ทำให้หมดอนาคตในวงการบันเทิง ถูกสั่งปลดจากละครและรายการทั้งหมด เมื่อมีโอกาสเจอเจ้าตัวในงานรอบกาล่าภาพยนตร์ ทิดน้อย จึงได้พูดคุยอัปเดตเรื่องราวหลังชีวิตผ่านมรสุมลูกใหญ่มาแล้ว

โดย นก เผยว่า “ชีวิตตอนนี้เข้าที่แล้วค่ะ เริ่มมีหนัง มีละคร มีซีรีส์ มีรายการเข้ามา เริ่มมีอะไรให้เราทำเหมือนเดิมแล้วค่ะ ตอนที่เจอมรสุมชีวิต ก็ทุกข์หนักมาก เรียกว่าเป็นมรสุมใหญ่ของชีวิต แต่เราก็ไม่โทษใคร เราโทษตัวเอง แต่วันนี้พอถึงฟ้าหลังฝนทุกอย่างก็สดใสแล้ว ก็หลายปีนะ ประมาณ 13 ปีได้”

ถ้าย้อนกลับไป ตอนนั้นใช้ชีวิตยังไง ?

“ตอนนั้นใหม่ๆ ก็ลำบากนิดนึงในการที่จะพบปะผู้คน เหมือนเรารู้สึกผิดที่เราทำไม่ดี แต่ก็ยิ่งมีคนมาให้กำลังใจ สู้ๆ นะ ให้อภัย เรายิ่งรู้สึกไม่ดี เพราะเรารู้สึกว่าเราทำผิดขนาดนั้น ทุกคนยังให้กำลังใจ เรารู้สึกเสียใจมากๆ กับการกระทำของตัวเอง แต่ทุกวันนี้ปรับได้แล้ว ก็ต้องกล้าเผชิญกับทุกอย่าง”

ตอนนั้นการใช้ชีวิตคือคนมองเราตลอดเวลา ?

“ใช่ค่ะ แต่ด้วยความที่เราระแวงคิดไปเอง ว่าเขาต้องว่าเรา เขาต้องด่าเรา เขาต้องอะไรเรา แต่จริงๆ คนคิดมันก็ต้องมีแบบนั้น แต่เราไม่เคยโดนว่ามาอะไร มีแต่คนมาให้กำลังใจ แต่ถึงมีพี่ก็ว่าเป็นเรื่องปกติ เพราะเราทำผิดขนาดนั้น เรามองว่าเราทำให้ชีวิต ณ ตอนนั้นตกต่ำ ด้วยตัวเราเอง เราก็คิดแบบนั้น เราผิดพลาดด้วยตัวเอง เราก็ต้องยอมรับสภาพ”

คิดไหมว่าเราจะได้กลับมาเป็น “นก วนิดา” คนเดิม ?

“ไม่น่ากลับมาได้แล้ว แต่วันนี้กลับมาแล้วค่ะ เพราะพิสูจน์ให้ทุกคนเห็นว่า เราไม่ได้ยุ่งกับเรื่องราวเหล่านั้นแล้ว”

เคยร้องไห้กับตัวเองไหม ตอนที่เจออะไรหนักๆ ?

“เคยค่ะ เคยร้องไห้กับตัวเอง เพราะเราทำตัวเอง เราเลยต้องร้องไห้กับตัวเอง ก็บอกกับตัวเองว่า ถ้าเรามีโอกาสเริ่มต้นใหม่ อย่างน้อยก็ไม่คิดว่าวงการจะให้โอกาสเราอีกครั้ง แต่ขอเริ่มต้นชีวิตใหม่กับลูกกับแม่ จะทำอะไรก็แล้วแต่ จะสร้างอนาคตให้ลูกตัวเองอีกครั้ง”

เห็นว่าสงสารลูกมาก ?

“สงสารมากค่ะ เพราะชีวิตวัยรุ่นของเขาหายไปเลย กลายเป็นว่าเขาต้องทำมาหากินเลี้ยงเรา” 

ได้คุยกับลูกไหม เพราะเขาได้รับผลกระทบจากเรา ?

“มีคุยค่ะ เราก็พยายามถาม เขาบอกว่า แม่ไม่ต้องกลัว ไม่มีใครมาว่าหนูหรอก หนูไม่อายหรอก เพราะยังไงหนูเป็นลูกแม่ หนูรับได้ เราก็ยิ่งร้องไห้ เพราะทำให้ลูกขาดความสุขชีวิตวัยรุ่นไปเลย เราก็ยิ่งเสียใจ และอายแทนลูก ลูกจะอายคน แต่ลูกให้กำลังใจเราตลอดค่ะ”

ทำไมถึงคิดว่าวงการไม่ให้โอกาสเรา ?

“เพราะเราผิดมากไง ไม่อยากทำให้วงการเสื่อมเสีย โชคดีที่ทุกคนให้โอกาส ขอบคุณทุกคนมากๆ ค่ะ”

ตอนนี้ชีวิตดีขึ้น ว่าแผนชีวิตยังไง ?

“การวางแผนก็คงไม่มี แต่ ณ วันนี้ขอทำงานให้ดีที่สุด เพราะว่าสิ่งไม่ดีเราใช้มาเยอะแล้ว เราจะไม่ก้าวแบบนั้นอีกแล้ว เพราะทุกวันนี้ทำเพื่อลูก เพื่อแม่แล้วค่ะ ก็มีความสุขกับงาน”

ได้ให้คำมั่นสัญญากับตัวเองไหม ?

“ก็สัญญาค่ะ ว่ามันต้องดีขึ้น จะต้องเดินให้ถูกทาง เพราะอายุก็เยอะแล้ว ถ้าผิดพลาดอีกก็คงไม่มีโอกาสแล้ว”