หน่วยงานด้านอาหารแห่งสหประชาชาติตั้งเป้าการเติบโตของการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ 35% ภายในปี 2030 ขณะที่ความต้องการอาหารทะเลเพิ่มสูงขึ้น
(SeaPRwire) – องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาได้กําหนดเป้าหมายเพิ่มการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําให้เพิ่มขึ้นร้อยละ 35 ภายในปี 2030 เพื่อตอบสนองความต้องการอาหารทะเลที่เพิ่มขึ้น และเพื่อต่อสู้กับภาวะความหิวโหยและภาวะการเลี้ยงดูที่ไม่เพียงพอทั่วโลก
องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติหวังว่าภาคการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ําจะเพิ่มขึ้นร้อยละ 35 ตามรายงานที่รับรองสิ้นสุดการประชุมสามวันของภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกในโคลัมโบ ประเทศศรีลังกา
เจ้าหน้าที่กล่าวว่าการผลิตสัตว์น้ําเพาะเลี้ยงของโลกเพิ่มขึ้นร้อยละ 54 ตั้งแต่ปี 2011 และยังคงเป็นภาคการผลิตทางการเกษตรที่เติบโตเร็วที่สุด
เป้าหมายใหม่เป็นส่วนหนึ่งของแผนทางวิถีสีน้ําเงินของ FAO ซึ่งมุ่งที่จะเปลี่ยนแปลงระบบอาหารจากทะเลทั่วโลกภายในทศวรรษต่อไป
คาดว่าประชากรในโลกประมาณ 600 ล้านคนจะขาดแคลนอาหารภายในปี 2030 แต่คาดว่าจะมีความก้าวหน้าในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิก จํานวนประชากรที่ขาดแคลนอาหารคาดว่าจะลดลงจาก 371 ล้านคนในปัจจุบันเหลือ 202 ล้านคนภายในปี 2030
Angela Lentisco ผู้อํานวยการฝ่ายประมงและสัตว์น้ําของ FAO กล่าวว่าภาคประมงและการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ํา “มีบทบาทสําคัญในการแก้ปัญหาความมั่นคงด้านอาหารในภูมิภาค” และเพิ่มว่า FAO กําลังช่วยประเทศสมาชิกในการพัฒนาภาคนี้
ภายใต้ FAO ช่วยโครงการหลายโครงการเพื่อปรับปรุงอุตสาหกรรมประมงของศรีลังกา ซึ่งมีบทบาทสําคัญต่อเศรษฐกิจประเทศและเป็นรายได้ของประชากรมากกว่า 2.5 ล้านคน
บทความนี้ให้บริการโดยผู้ให้บริการเนื้อหาภายนอก SeaPRwire (https://www.seaprwire.com/) ไม่ได้ให้การรับประกันหรือแถลงการณ์ใดๆ ที่เกี่ยวข้องกับบทความนี้
หมวดหมู่: ข่าวสําคัญ ข่าวประจําวัน
SeaPRwire จัดส่งข่าวประชาสัมพันธ์สดให้กับบริษัทและสถาบัน โดยมียอดการเข้าถึงสื่อกว่า 6,500 แห่ง 86,000 บรรณาธิการและนักข่าว และเดสก์ท็อปอาชีพ 3.5 ล้านเครื่องทั่ว 90 ประเทศ SeaPRwire รองรับการเผยแพร่ข่าวประชาสัมพันธ์เป็นภาษาอังกฤษ เกาหลี ญี่ปุ่น อาหรับ จีนตัวย่อ จีนตัวเต็ม เวียดนาม ไทย อินโดนีเซีย มาเลเซีย เยอรมัน รัสเซีย ฝรั่งเศส สเปน โปรตุเกส และภาษาอื่นๆ